พระครูปัญญาวชิรธรรม ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าอาวาสที่นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดรัตนารามเป็นอย่างมาก พระคุณท่านเป็นพระนักเทศน์พระธรรมกถึกฝีปากเอกของอำเภอแม่ริม เป็นพระนักพัฒนาที่หาตัวจับได้ยาก และเป็นเจ้าอาวาสที่โดดเด่นในอำเภอมากเพราะท่านนอกจากจะสำเร็จการศึกษาแบบเก่าคือได้ถึงนักธรรมชั้นเอกแล้วก็ยังมีอุตสาหะเล่าเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต(เกียรตินิยมอันดับ ๒)จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยอีกด้วย
เพื่อเทิดทูนคุณงามความดีของพระคุณท่านจึงใคร่นำเสนอชีวประวัติ และผลงานของพระคุณท่านดังต่อไปนี้
ประวัติ
พระครูปัญญาวชิรธรรม (สุมินทร์ ปญฺญาวชิโร, รูปดี)
อดีตเจ้าคณะตำบลห้วยทราย-สะลวง, อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนาราม (ต้นแก้ว)
สถานะเดิม อดีตเจ้าคณะตำบลห้วยทราย-สะลวง, อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนาราม (ต้นแก้ว)
พระครูปัญญาวชิรธรรม นามเดิม สุมินทร์ ฉายา ปญฺญาวชิโร นามสกุล รูปดี
เป็นบุตรของ คุณพ่อคำ รูปดี และคุณแม่สุก บุญสม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ บ้านเหมืองผ่า เลขที่ ๑๗๕ หมู่ ๑ ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
บรรพชา
เมื่อวันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ณ วัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระครูอมรธรรมประยุต (บุญจันทร์ ปุณฺณจนฺมหาเถร ป.ธ.๕) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ณ วัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พระเทพวรสิทธาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺนมหาเถร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดสำเภา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระอุดมวุฑฒิคุณ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิวิธสังฆภาร (ศรีเทา เขมิโย) อดีตรองเจ้าคณะอำเภอแม่ริม เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูอมรธรรมประยุต (บุญจันทร์ ปุณฺณจนฺทมหาเถร ป.ธ.๕) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า ปญฺญาวชิโร
การศึกษาและวิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๕๑๓ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๔๓ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จังหวัดลำพูน
พ.ศ. ๒๕๕๐ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๒) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน
ตำแหน่งหน้าที่ทางการปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดรัตนาราม (ต้นแก้ว) ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๒๖ - ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยทราย-สะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลห้วยทราย-สะลวง
พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
งานเผยแผ่
พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอแม่ริม
งานสาธารณูปการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นประธานกรรมการควบคุมการก่อสร้างถาวรวัตถุของคณะสงฆ์ ตำบลห้วยทราย-สะลวง
พ.ศ. ๒๕๔๒ ก่อสร้างวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของวัด จำนวน ๑ หลัง
พ.ศ. ๒๕๔๓ สร้างกุฏิกัปปิยภัณฑ์ จำนวน ๑ หลัง
เป็นบุตรของ คุณพ่อคำ รูปดี และคุณแม่สุก บุญสม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ บ้านเหมืองผ่า เลขที่ ๑๗๕ หมู่ ๑ ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
บรรพชา
เมื่อวันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ณ วัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระครูอมรธรรมประยุต (บุญจันทร์ ปุณฺณจนฺมหาเถร ป.ธ.๕) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ณ วัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พระเทพวรสิทธาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺนมหาเถร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดสำเภา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระอุดมวุฑฒิคุณ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิวิธสังฆภาร (ศรีเทา เขมิโย) อดีตรองเจ้าคณะอำเภอแม่ริม เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูอมรธรรมประยุต (บุญจันทร์ ปุณฺณจนฺทมหาเถร ป.ธ.๕) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า ปญฺญาวชิโร
การศึกษาและวิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๕๑๓ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๔๓ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จังหวัดลำพูน
พ.ศ. ๒๕๕๐ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๒) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน
ตำแหน่งหน้าที่ทางการปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดเจดียสถาน ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดรัตนาราม (ต้นแก้ว) ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๒๖ - ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยทราย-สะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลห้วยทราย-สะลวง
พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวงของคณะสงฆ์อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
งานเผยแผ่
พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอแม่ริม
งานสาธารณูปการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นประธานกรรมการควบคุมการก่อสร้างถาวรวัตถุของคณะสงฆ์ ตำบลห้วยทราย-สะลวง
พ.ศ. ๒๕๔๒ ก่อสร้างวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของวัด จำนวน ๑ หลัง
พ.ศ. ๒๕๔๓ สร้างกุฏิกัปปิยภัณฑ์ จำนวน ๑ หลัง
พ.ศ. ๒๕๔๓ บูรณปฏิสังขรณ์หอไตรและศาลาการเปรียญ
เกียรติคุณที่ได้รับ
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับเกียรติบัตรของคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าคณะตำบลผู้มีผลงานดีเด่น ด้านการปกครอง
เกียรติคุณที่ได้รับ
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับเกียรติบัตรของคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าคณะตำบลผู้มีผลงานดีเด่น ด้านการปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับโล่เกียรติคุณของคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระสังฆาธิการผู้มีผลงานดีเด่น ด้านการเผยแผ่
พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้รับพระราชทานรางวัล เสมาธรรมจักร ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาการส่งเสริมการพัฒนาชุมชน
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูปัญญาวชิรธรรม
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
วาระสุดท้ายของชีวิต
เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๕๐ สุขภาพร่างกายของหลวงพ่อพระครูปัญญาวชิรธรรม มีอาการอาพาธเป็นระยะๆ มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และบริเวณแขน ขา หลวงพ่อได้เข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลต่างๆ หลายครั้ง แต่อาการอาพาธก็ไม่หายขาด เนื่องด้วยทราบแต่เพียงว่าอาพาธเป็นโรคเบาหวาน จนกระทั่งท่านได้หกล้มและอาเจียนออกมาเป็นเลือด ศิษยานุศิษย์จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้ทราบว่าท่านอาพาธด้วยโรคมะเร็งตับ หลวงพ่อพระครูปัญญาวชิรธรรมจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ต่อมาอาการท่านได้ทรุดลงจึงได้นำท่านลงมาห้องฉุกเฉิน รักษาอาการอาพาธประมาณ ๕ วัน จนกระทั่งวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ท่านพระครูปัญญาวชิรธรรม ก็ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของคณะศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาวัดรัตนารามเป็นอย่างยิ่ง สิริรวมอายุได้ ๕๓ ปี พรรษา ๓๓
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูปัญญาวชิรธรรม
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
วาระสุดท้ายของชีวิต
เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๕๐ สุขภาพร่างกายของหลวงพ่อพระครูปัญญาวชิรธรรม มีอาการอาพาธเป็นระยะๆ มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และบริเวณแขน ขา หลวงพ่อได้เข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลต่างๆ หลายครั้ง แต่อาการอาพาธก็ไม่หายขาด เนื่องด้วยทราบแต่เพียงว่าอาพาธเป็นโรคเบาหวาน จนกระทั่งท่านได้หกล้มและอาเจียนออกมาเป็นเลือด ศิษยานุศิษย์จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้ทราบว่าท่านอาพาธด้วยโรคมะเร็งตับ หลวงพ่อพระครูปัญญาวชิรธรรมจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ต่อมาอาการท่านได้ทรุดลงจึงได้นำท่านลงมาห้องฉุกเฉิน รักษาอาการอาพาธประมาณ ๕ วัน จนกระทั่งวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ท่านพระครูปัญญาวชิรธรรม ก็ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของคณะศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาวัดรัตนารามเป็นอย่างยิ่ง สิริรวมอายุได้ ๕๓ ปี พรรษา ๓๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น